สร้างสาวกเริ่มต้นที่บ้าน
เสริมรากความเชื่อให้ครอบครัว
ข่าวประชาสัมพันธ์
เรื่องเล่าจากค่ายบุรุษ คริสตจักรสัมพันธ์ภาคละว้า พันธกิจการสร้างสาวกในครอบครัว
การสร้างสาวกไม่ใช่เพียงพันธกิจของศิษยาภิบาลหรือผู้นำคริสตจักรเท่านั้น แต่เป็นหัวใจของการดำเนินชีวิตคริสเตียนในทุกบริบท โดยเฉพาะภายในครอบครัว ซึ่งเป็น “โรงเรียนแห่งความเชื่อ” แห่งแรกของชีวิต การสร้างสาวกในบ้านที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง จึงเป็นการวางรากฐานฝ่ายวิญญาณที่มั่นคง ถ่ายทอดความรัก ความจริง และพระคุณของพระองค์จากรุ่นสู่รุ่น
เมื่อครอบครัวเลือกให้พระคริสต์นำทุกการตัดสินใจและวิถีชีวิต จะไม่เพียงทำให้สมาชิกในบ้านเติบโตฝ่ายวิญญาณ แต่ยังเสริมพลังให้คริสตจักรมีชีวิตชีวา และขยายผลสู่ชุมชนที่เต็มไปด้วยความรัก การรับใช้ และการเป็นพยานอย่างเป็นรูปธรรม พันธกิจการสร้างสาวกในครอบครัว จึงเป็นเหมือนการปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อในดินที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งจะออกผลดีงามอย่างยั่งยืนทั้งในบ้าน คริสตจักร และสังคมรอบข้าง
– นายศาสตรา คำป้อ ผู้ประสานงานคริสตจักรคู่มิตร มูลนิธิดรุณาทร –
การสร้างสาวกในครอบครัว จุดประกายจากค่ายบุรุษสู่การเปลี่ยนแปลงชุมชน
ภายในค่าย ได้มีการพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้แนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้บุรุษแต่ละคนให้สามารถนำหลักการสร้างสาวกกลับไปใช้ในบ้านของตนเอง โดยเชื่อแน่ว่าจากจุดเล็ก ๆ ที่เริ่มจากการนมัสการพระเจ้าร่วมกัน การอ่านพระคำ และการหนุนใจกันในครอบครัว จะกลายเป็นพลังที่จะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศและความสัมพันธ์ในบ้านได้ และยังสามารถขยายผลต่อไปในคริสตจักรและในชุมชนต่อไปได้ เพราะเมื่อผู้นำครอบครัวลุกขึ้นมาทำหน้าที่อย่างสัตย์ซื่อ พระพรของพระเจ้า จะไหลผ่านไปยังคนรอบข้างอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน
– นายเดวิด สุดพิทักษ์เกียรติ –
หนึ่งในผู้ประสานงานพัฒนาคริสตจักรคู่มิตร มูลนิธิดรุณาทร ได้พูดถึงความสำคัญในการสร้างสาวกในครอบครัว ดังนี้ “การสร้างสาวกในครอบครัว เป็นพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ ต่อเราที่เป็นคริสเตียนหรือว่าผู้เชื่อติดตามพระเยซูคริสต์ ซึ่งการสร้างสาวก มีอะไรที่ท้าทายเยอะนะครับ โดยเฉพาะในเรื่องของการมีเวลากับครอบครัว แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเป็นการที่จะดึงความสัมพันธ์ของครอบครัวเรา และการดึงความสัมพันธ์ของลูก ๆ เราให้เขาติดตามพระเยซูคริสต์ครับ”
– อาจารย์ธัญพิสิษฐ์ อิทธิสิริศักดิ์ –
ศิษยาภิบาล คริสตจักรสันติสุข อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคริสตจักรที่กำลังดำเนินพันธกิจในเรื่องการสร้างสาวกในครอบครัว ได้กล่าวถึงความท้าทาย และการหนุนใจสมาชิกที่จะเริ่มพันธกิจนี้ด้วยกันว่า “ปัญหาในการสร้างสาวกในครอบครัว คือหนึ่ง สมาชิกอาจจะไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไร และสอง อาจจะเป็นเพราะว่าสมาชิกไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ผมก็ได้มีโอกาสได้แบ่งปัน แล้วก็เทศนาหนุนใจในคริสตจักร และสอนให้เขาเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นพิเศษครับ เพราะเป็นโอกาสที่เราจะได้นมัสการพระเจ้า อธิษฐานร่วมกัน บางครั้งก็ศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกัน บางครั้งก็จะให้โอกาสให้กับเวลา ให้กับลูกในการท่องพระคัมภีร์ ได้อธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน”
เช่นเดียวกับ – อาจารย์ธีรสิทธ์ กิจวิบูลย์สิน –
ศิษยาภิบาลคริสตจักรสัมพันธ์บ้านดง ได้พูดถึงกระบวนการที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสาวกในครอบครัวว่า “ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ คนจะไม่ค่อยอยู่บ้านกันทั้งหมดนะครับ คือลูก ๆ เขาก็จะไปเรียนต่างจังหวัดบ้าง ส่วนพ่อแม่เขาก็ทำอาชีพหลากหลาย ทำให้เวลาไม่ตรงกัน เลยทำให้เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการทำพันธกิจครอบครัว สิ่งที่คริสตจักรทำก็คือ เลือกบางครอบครัวซึ่งเป็นครอบครัวของผู้นำของคริสตจักรเองนะครับ มาเรียนรู้บทเรียนด้วยกัน ร่วมอธิษฐานด้วยกันที่โบสถ์นะครับ อาจจะนัดสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง โดยที่เราจะใช้เวลาในช่วงกลางคืนนะครับประมาณสัก 1-2 ชั่วโมง”
– อาจารย์เอกสิทธิ์ แผ่อำนาจ –
ศิษยาภิบาลคริสตจักรบ้านละอูบ ได้มีการสร้างความตระหนักให้กับคนในคริสตจักรให้เห็นความสำคัญในการสร้างสาวกในครอบครัวผ่านการนมัสการมาระยะเวลาหนึ่ง ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่กลายเป็นพระพรมาสู่ครอบครัว คริสตจักร และชุมชน ว่า “ครอบครัวที่ทำตามกระบวนการที่คริสตจักรได้ทำ ก็เห็นว่าเขาก็มีความรักความผูกพัน แล้วก็ให้ความสำคัญกับครอบครัวมากขึ้น จากกลุ่มที่เขาไม่ค่อยสนใจการมานมัสการในคริสตจักร เราก็เห็นว่าเขามาเช้า แล้วก็ความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมเรียนพระคัมภีร์ ร่วมนมัสการ และมีส่วนร่วมในงานของคริสตจักรส่วนนี้ก็เห็นได้ได้ชัด ก็ทำให้เราภูมิใจในสิ่งที่เมื่อเราทำแล้ว มันไม่สูญเปล่าครับ”
– นายคับรีเอล คำพุทธ –
อีกหนึ่งผู้ประสานงานพัฒนาคริสตจักรคู่มิตร ได้พูดถึงกระบวนการสร้างความตระหนักในการสร้างสาวกในครอบครัวว่า “กระบวนการที่เราเริ่มต้นในการสร้างความตระหนัก เราจะเราจะเริ่มต้นกับบุรุษ โดยเฉพาะบุรุษละว้า พวกเราในฐานะที่เป็นผู้ประสานงาน เราจะถนัดกับการที่เราหนุนใจ ทำให้เกิดกำลัง เกิดภาระใจแล้วก็เริ่มต้นจากกลุ่มของบุรุษ ซึ่งเป็นผู้นำอยู่แล้วในระดับครอบครัว นี่คือสิ่งที่เราอยากจะเห็นมันเกิดขึ้นครับ”
จากครอบครัวเข้มแข็ง สู่คริสตจักรและชุมชนแห่งความเชื่อที่มั่นคง
คริสตจักรสัมพันธ์ภาคละว้า ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของพันธกิจ “การสร้างสาวกในครอบครัว” จึงได้กำหนดให้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลัก ที่ต้องการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าหากครอบครัวเข้มแข็ง ย่อมส่งผลต่อความมั่นคงของคริสตจักรโดยตรงด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บุรุษที่เข้าร่วมค่าย ได้ตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบในการนำครอบครัวให้เดินในทางของพระเจ้า เมื่อได้รับแนวคิดและแนวทางปฏิบัติแล้ว พวกเขาสามารถนำไปปรับใช้ทั้งในบ้านและคริสตจักร เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มจากภายในครอบครัว และขยายไปสู่ชุมชนความเชื่อในวงกว้าง
“จากที่จบค่ายไปแล้วสิ่งที่ภาคทำต่อก็คือ เราจะอาจจะตามแต่ละคริสตจักร โดยการเชิญผู้นำแต่ละคริสตจักร เช่น ผู้ปกครอง มัคนายก ผู้รับใช้พระเจ้า ก็มีโอกาสมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกันว่า แต่ละคริสตจักรทำไปแล้วเป็นยังไง แล้วก็เจออุปสรรคปัญหายังไงไหม หรือว่ามีอะไรที่เราจะช่วยกันเพื่อ ที่เราทำอย่างนี้ ก็เพื่อที่จะสนับสนุน แล้วก็ขับเคลื่อนพันธกิจการสร้างสาวกในครอบครัวให้เป็นจริง แล้วก็เกิดขึ้นอย่างจริงจังในภาคละว้าเรานะครับ เพราะเรามีสโลแกนที่ว่า “ครอบครัวเข้มแข็ง คริสตจักรก็เข้มแข็ง”ครับ” อาจารย์เอกสิทธิ์ แผ่อำนาจ กล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ระดับภาคที่จะดำเนินการทำร่วมกันต่อไป
– นางศรินยา ไกวัลวิมลสิริ –
อดีตเจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาเด็กบ้านละอูบ เธอได้นำบทเรียนและองค์ความรู้เรื่องการสร้างสาวกในครอบครัวของมูลนิธิดรุณาทรไปใช้ในครอบครัวและสร้างสาวกในกลุ่มเด็กที่อยู่ในชุมชน และในปัจจุบัน เธอยังช่วยดูแลพันธกิจครอบครัวของคริสตจักร ได้เล่าว่า “ในครอบครัวของพี่โดยส่วนตัว ได้มีการนมัสการในครอบครัว ซึ่งเป็นนโยบายของภาคละว้าตั้งแต่นานมาแล้ว พี่ก็ใช้สิ่งนี้ในการสร้างสาวก โดยใช้บทเรียนของคอมแพสชั่น แล้วก็สร้างสาวกในเรื่องการส่งต่อความเชื่อ โดยการนำลูก ๆ เข้าชั้นเรียนรวี และที่บ้าน ก็มีการสร้างกลุ่มเซลล์เล็ก ๆ ของน้อง ๆ ในชุมชน ที่อยู่ในบริเวณบ้านทุกเย็นวันพฤหัส เราจะมาเรียนรู้เรื่องราวของพระเจ้าด้วยกัน เพื่อที่จะทำให้น้อง ๆ เห็นความสำคัญ และสามารถส่งต่อไปให้กับพ่อแม่ด้วย”
การสร้างสาวกในครอบครัว เริ่มจากหัวใจของความรักและการเป็นแบบอย่างที่ดี พ่อแม่หรือผู้ปกครองจำเป็นต้องสอนให้ลูกเห็นคุณค่าของพระวจนะ และการดำเนินชีวิตตามพระเยซู ผ่านการใช้เวลาร่วมกัน อธิษฐานร่วมกัน และเผชิญสถานการณ์ชีวิตอย่างมีความเชื่อ แม้การปลูกฝังความเชื่ออาจต้องใช้เวลาและความอดทน แต่เมื่อครอบครัวมีรากฐานมั่นคงในพระคริสต์ ก็จะสามารถส่งต่อความเชื่อนี้จากรุ่นสู่รุ่นอย่างมั่นคงและยั่งยืน.
มูลนิธิดรุณาทร
57/7 ซอย 3 ถนนทุ่งโฮเต็ล ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่ 50000
โทรศัพท์ : 053 266 426 ถึง 9
Email : cithpr@gmail.com